เสริมคางภายใน Phd Clinic
เสริมคางภายใน
การ เสริมคางภายใน วิธีนี้แพทย์จะทำการเปิดแผลข้างในปาก ตรงบริเวณซอกเหงือกตรงริมฝีปากล่าง ความยาวของแผลจะมีขนาดประมาณ 1.5 – 2 ซม. หลังจากนั้นจะแยกเนื้อเยื่อหุ้มกระดูกตรงบริเวณขอบล่างขึ้นมา แล้วทำการใส่ซิลิโคนเข้าไปยังตำแหน่งที่ต้องการ แล้วทำการเย็บปิดแผล ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 ชม. การเปิดแผลด้านใน มีข้อควรระวังกว่าวิธีแรก เนื่องจากเป็นการเปิดแผลข้างใน ภายในปากต้องสะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบ รวมไปถึงการติดเชื้อด้วย
**การอ่านเพิ่มเติม การเสริมคางแผลภายนอก **
ข้อดีการเสริมคางภายใน
-
- ไม่เห็นรอยแผลเป็น ทำให้ได้รับความนิยมสูง
- แผลสามารถโดนน้ำได้
ข้อเสียของการเสริมคางภายใน
-
- มีโอกาสติดเชื้อสูง เนื่องจากสัมผัสกับน้ำลาย หรือเศษอาหารที่รับประทานเข้าไป
- รับประทานอาหารค่อนข้างลำบากในช่วง 5 วันแรกของการผ่าตัด
- ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ไม่ร้อนจัด หรือ เย็นจัด เป็นต้น
การเตรียมตัวก่อนเสริมคางภายใน
-
- ปรึกษาออกแบบรูปทรงใบหน้ากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้เตรียมตัวอย่างรูปทรงคาง สำหรับการเสริมคาง
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องใช้เป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบโดยละเอียด
- ก่อนผ่าตัด ควรงดรับประทานยาที่ต้านเกล็ดเลือด และยาละลายลิ่มเลือด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันอาการเลือดออกง่ายในระหว่างผ่าตัด
- สมุนไพร วิตามิน และอาหารเสริมที่อาจทำให้เลือดออกง่าย และออกมากกว่าปกติ เช่น วิตามินอี วิตามินเอ น้ำมันตับปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วย โสม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ก่อนผ่าตัดจึงควรหยุดรับประทานเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อควบคุมปริมาณเลือดที่จะออกระหว่างการผ่าตัด
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ควรจะควบคุมอาการของโรคนั้นให้อยู่ในระดับปกติ ก่อนรับการผ่าตัด
- แจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติการแพ้ยาที่รับประทาน หรือยาชา ก่อนเสมอ
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ ก่อนผ่าตัดประมาณ 1 เดือนเพื่อป้องกันปัญหาที่ทำให้แผลหายช้า และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- เตรียมวันให้ว่าง พร้อมหยุดพักหลังผ่าตัดประมาณ 7 วัน
- เตรียมจิตใจให้พร้อมต่อการผ่าตัด ลดความตื่นเต้นให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้
- ทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้ารับการผ่าตัดให้สะอาดเรียบร้อย
- ในวันรับการผ่าตัด ให้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่สบาย มีกระดุมหน้า และหลวมให้สามารถถอดใส่ง่าย และควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีโลหะนำไฟฟ้าในวันนั้น
- งดใส่คอนแทคเลนส์ รีเทนเนอร์ ฟันปลอม และเครื่องประดับทุกชนิด
- ทานอาหารก่อนเข้าผ่าตัดแค่พออิ่ม เพื่อป้องกันปัญหาท้องแน่นหรืออึดอัดระหว่างการผ่าตัด
- งดใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า เพื่อป้องกันปัญหาการติดเชื้อที่จะตามมาหากล้างเครื่องสำอางไม่หมด
การดูแลหลังเสริมคางแผลภายใน
-
- ในช่วง 1-3 วันแรก แนะนำให้ประคบเย็นบริเวณคางและแก้มทั้ง 2 ข้าง ประมาณ 5 วินาที จากนั้นพอเข้าสู่วันที่ 4 ให้เปลี่ยนเป็นประคบร้อนบริเวณเดิมจนถึงวันตัดไหม วิธีนี้จะช่วยลดอาการบวมได้เป็นอย่างดี
- ควรนอนหมอนสูงหรือนั่งหลับโดยใช้หมอนรองคอไว้ในช่วงอาทิตย์แรกหลังผ่าตัด เพื่อลดอาการบวม
- สำหรับคนที่เสริมคางแผลใน ควรงดแปรงฟันประมาณ 1 สัปดาห์หลังทำ เมื่อครบกำหนดและแผลดีขึ้นแล้ว แนะนำให้แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร โดยใช้แปรงสีฟันที่มีขนาดเล็กร่วมกับยาสีฟันสำหรับเด็กที่มีรสชาติไม่เผ็ดร้อน และบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออีกครั้งเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อ
- ควรระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนบริเวณคาง เพราะอาจจะทำให้ซิลิโคนที่เสริมเข้าไปเกิดการเบี้ยวหรือเอียงได้
- หากเกิดอาการคันหรือระคายเคืองบริเวณผ้าด้ามแผล ห้ามแกะออกเองโดยเด็ดขาด แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัย
- ควรกินยาให้ครบขนาดตามที่แพทย์สั่ง เพื่อช่วยลดอาการบวม ติดเชื้อ และอักเสบของแผลผ่าตัด
- งดรับประทานอาหารที่มีรสจัดและของแสลง เช่น ของหมักดอง, ปลาร้า, อาหารทะเล, ของสุก ๆ ดิบ ๆ, บุหรี่ และเครื่องแอลกอฮอล์ เป็นต้น เพราะอาจจะทำให้แผลเกิดการติดเชื้อและอักเสบได้
- หากมีอาการผิดปกติบริเวณแผลผ่าตัดควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที ไม่ควรซื้อยามารับประทานเองโดยเด็ดขาด
สรุปการเสริมคางแผลภายนอก
จะเห็นได้ว่า การผ่าตัดเสริมคางแผลนอกเป็นวิธีการผ่าตัดเสริมคางที่มีความเสี่ยงต่ำ ดูแลรักษาได้ง่าย และมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการเบี้ยวเอียงได้น้อยกว่าการผ่าตัดเสริมคางแผลใน แต่จะมีข้อเสียตรงที่อาจเกิดรอยแผลเป็นเส้นจาง ๆ เล็ก ๆ บริเวณใต้คาง (lannawadee)